Bitget App
เทรดอย่างชาญฉลาดกว่าที่เคย
ซื้อคริปโตตลาดเทรดFuturesCopyบอทเทรดEarn

ดัชนีความกลัวและความโลภคริปโต

ในแต่ละวัน เราวิเคราะห์อารมณ์และความเชื่อมั่นจากแหล่งต่างๆ และกลั่นออกมาเป็นตัวเลขเดียวที่เข้าใจได้ง่าย จึงได้ออกมาเป็นดัชนีความกลัวและความโลภสำหรับ Bitcoin และคริปโทเคอร์เรนซีตัวหลักตัวอื่นๆ

ดัชนีความกลัวและความโลภปัจจุบัน:โลภสุดขีด79

เมื่อความเชื่อมั่นของตลาดอยู่ในภาวะที่มี “ความโลภสุดขีด” หมายความว่ามีความเคลื่อนไหวในการเทรดและมีสภาพคล่องของตลาดในระดับสูงมาก รวมถึงราคาของเหรียญมีความผันผวน
มูลค่าในอดีต
เมื่อวาน
82 (โลภสุดขีด)
7 วันที่แล้ว
90 (โลภสุดขีด)
30 วันที่แล้ว
74 (โลภ)
เวลาอัปเดต
อัปเดตล่าสุด:
2024-11-26 00:00
จะอัปเดตครั้งถัดไปใน
0 ชม.: 0 นาที: 0 วินาที
แหล่งที่มาของดัชนี
Alternative.me

กราฟดัชนีความกลัวและความโลภคริปโต

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตพิจารณาอะไรบ้าง

เรารวบรวมข้อมูลจาก 5 แหล่งต่อไปนี้ แต่ละจุดข้อมูลถ่วงน้ำหนักเท่าๆ กันกับวันก่อนหน้าเพื่อให้เห็นภาพความคืบหน้าที่ชัดเจนในด้านการเปลี่ยนแปลงทางความเชื่อมั่นของตลาดคริปโต
ปัจจัยที่รวมอยู่ในดัชนีปัจจุบันมีดังนี้:
ความผันผวน (25%)
เราวัดความผันผวนและการขาดทุนสะสมสูงสุดของ Bitcoin ในปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นผิดปกตินั้นจะตีความว่าเป็นสัญญาณของตลาดที่หวาดกลัว
โมเมนตัมตลาด/ปริมาณ (25%)
เราประเมินโมเมนตัมและปริมาณของตลาดในปัจจุบันโดยการเปรียบเทียบค่าเหล่านี้กับค่าเฉลี่ยในช่วง 30 และ 90 วันที่ผ่านมา แล้วนำค่าทั้ง 2 นี้มาประกอบกัน เมื่อเราสังเกตเห็นปริมาณการซื้อที่สูงในตลาดที่มีมุมมองบวกเป็นประจำทุกวัน ก็สรุปได้ว่าตลาดกำลังมีพฤติกรรมที่โลภมากหรือ Bullish มากเกินไป
โซเชียลมีเดีย (15%)
แม้เราจะยังไม่ได้รวมการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น Reddit เข้ามาในดัชนีแบบเรียลไทม์ (เนื่องจากยังคงทดลองใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับตลาดในอัลกอริทึมการประมวลผลข้อความอยู่) แต่การวิเคราะห์ X ของเราก็ทำงานได้เต็มรูปแบบแล้ว เรารวบรวมและนับโพสต์ที่ใช้แฮชแท็กต่างๆ สำหรับแต่ละเหรียญ (ปัจจุบันเราแสดงข้อมูลเป็นสาธารณะเฉพาะ Bitcoin เท่านั้น) และวิเคราะห์ความเร็วและปริมาณของการโต้ตอบภายในกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจง อัตราปฏิสัมพันธ์ที่สูงผิดปกติบ่งชี้ถึงความสนใจของสาธารณชนที่เพิ่มมากขึ้นในตัวเหรียญ ซึ่งเราตีความว่าเป็นสัญญาณของพฤติกรรมที่โลภมากของตลาด
แบบสำรวจ (15%)
เราดำเนินการร่วมกันกับ strawpoll.com (ข้อสงวนสิทธิ์: เราเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มนี้) ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำรวจความคิดเห็นสาธารณะขนาดใหญ่ โดยทำโพลคริปโตรายสัปดาห์เพื่อวัดความเชื่อมั่นของตลาด โดยทั่วไปแล้วการสำรวจความคิดเห็นเหล่านี้จะได้รับ 2,000-3,000 โหวตต่อโพล ซึ่งช่วยให้ทราบถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนคริปโต แม้เราจะไม่เน้นหนักกับผลลัพธ์เหล่านี้มากนัก แต่ก็มีประโยชน์อย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของการวิจัยของเรา คุณสามารถดูผลลัพธ์ล่าสุดบางส่วนได้ที่นี่
สัดส่วนการครองตลาด (10%)
สัดส่วนการครองตลาดของเหรียญแสดงถึงส่วนแบ่งมูลค่าตามราคาตลาดภายในทั้งตลาดคริปโต สำหรับ Bitcoin หากมีสัดส่วนการครองตลาดเพิ่มขึ้น ก็มักสะท้อนให้เห็นถึงความกลัวของตลาด เนื่องจากนักลงทุนลดการลงทุนใน Altcoin ที่เก็งกำไรลงและหันเข้ามาสู่ Bitcoin ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในทางกลับกัน เมื่อสัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin ลดลง ก็แสดงให้เห็นถึงความโลภที่เพิ่มมากขึ้น โดยนักลงทุนหันไปหา Altcoin ที่มีความเสี่ยงมากกว่า โดยหวังที่จะทำกำไรจาก Bull Run ครั้งใหญ่ครั้งถัดไป อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์สัดส่วนการครองตลาดของเหรียญอื่นนอกเหนือจาก Bitcoin การตีความก็อาจแตกต่างออกไปได้ ความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน Altcoin อาจบ่งชี้ถึงพฤติกรรม Bullish หรือการมีความโลภที่เฉพาะเจาะจงของเหรียญนั้นๆ
เทรนด์ (10%)
เราวิเคราะห์ข้อมูล Google Trends เพื่อดูคำค้นหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin โดยมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงในปริมาณการค้นหาและการค้นหาเทรนด์ที่แนะนำอื่นๆ เช่น การค้นหา “Bitcoin” บน Google Trends อาจไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกมากนักจากปริมาณการค้นหาโดยรวม อย่างไรก็ตามในวันที่ 29 พฤษภาคม 2018 มีการค้นหาคำว่า “การปั่นราคา Bitcoin” เพิ่มขึ้นถึง 1,550% จากคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความกลัวในตลาดซึ่งเราได้นำมาพิจารณาในดัชนีของเรา

ดัชนีความกลัวและความโลภของคริปโตคำนวณอย่างไรและควรนำไปใช้อย่างไร

ตลาดคริปโตขับเคลื่อนด้วยอารมณ์เป็นอย่างมาก เมื่อตลาดปรับตัวสูงขึ้น ผู้คนก็มักจะโลภมาก จนเกิดอาการ FOMO (กลัวตกรถ) ในทางกลับกัน เมื่อตลาดตกต่ำลง ก็อาจทำให้เกิดการขายอย่างไม่สมเหตุสมผลเมื่อเห็น “เลขแดง” ดัชนีความกลัวและความโลภมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่มากเกินไปเหล่านี้
มีสมมติฐานง่ายๆ อยู่ 2 ประการ:
ความกลัวสุดขีดอาจบ่งบอกว่านักลงทุนกังวลมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการซื้อได้
ความโลภที่มากเกินไปมักส่งสัญญาณว่าตลาดกำลังจะมีการปรับฐานในเร็วๆ นี้
ผู้สร้างได้วิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด Bitcoin ในอดีตและสรุปข้อมูลออกมาเป็นระดับตั้งแต่ 0-100
0-25: กลัวสุดขีด
25-45: กลัว
45-55: เป็นกลาง
55-75: โลภ
75-100: โลภสุดขีด
โปรดทราบว่าอินดิเคเตอร์นี้ขาดตัวอย่างในอดีตที่เพียงพอที่จะตรวจสอบยืนยันความมีประสิทธิภาพได้อย่างสมบูรณ์ โปรดใช้อย่างระมัดระวังในขณะที่คุณพัฒนากลยุทธ์การลงทุนของคุณเอง

คำถามที่พบบ่อย

ดัชนีความกลัวและความโลภคืออะไร

ดัชนีความกลัวและความโลภเป็นเครื่องมือที่วัดความเชื่อมั่นของตลาดโดยประเมินระดับความกลัวและความโลภในตลาด โดยเฉพาะในตลาดการเงิน เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือคริปโทเคอร์เรนซี ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจได้ว่าสภาวะตลาดนั้นมีมุมมองแง่บวกเกินไป (ความโลภ) หรือมีมุมมองแง่ลบเกินไป (ความกลัว) หรือไม่ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นได้
โดยทั่วไป:
ความกลัวสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของตลาด ความตื่นตระหนก หรือมุมมองในแง่ลบ ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับราคาที่ปรับตัวต่ำลง
ความโลภสะท้อนว่าตลาดมีมุมมองในแง่บวกหรือกล้าเสี่ยงมากเกินไป ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น
โดยทั่วไปดัชนีจะคำนวณอินดิเคเตอร์ต่างๆ เช่น ความผันผวนของตลาด โมเมนตัม เทรนด์บนโซเชียลมีเดีย แบบสำรวจ และคะแนนความเชื่อมั่นโดยรวม

ค่าสูงสุดและต่ำสุดของดัชนีความกลัวและความโลภคือเท่าไร

ดัชนีความกลัวและความโลภโดยทั่วไปจะแสดงในระดับ 0-100:
ค่ายิ่งใกล้ 0 ยิ่งสะท้อนถึงความกลัวสุดขีด แสดงถึงมุมมองในแง่ลบของนักลงทุน และบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อที่อาจเกิดขึ้น
ค่ายิ่งใกล้ 100 ยิ่งสะท้อนถึงความโลภสุดขีด แสดงถึงมุมมองในแง่บวกของนักลงทุน และบ่งชี้ว่าตลาดมีความร้อนแรงเกินไปหรืออาจเกิดฟองสบู่ได้
แม้ระดับจะจำกัดเพดานไว้ที่ 100 แต่ค่าที่สุดขีด (0 หรือ 100) ก็มักอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งมักเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนทิศในตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้น

ดัชนีความกลัวและความโลภคริปโตคืออะไร

ดัชนีความกลัวและความโลภคริปโตเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อประเมินความเชื่อมั่นภายในตลาดคริปโต โดยประเมินปัจจัยต่างๆ เช่น:
ความผันผวนของราคา: ระดับการเหวี่ยงตัวของราคาในตลาดคริปโต
ปริมาณตลาด: การเปลี่ยนแปลงในปริมาณการเทรดที่สามารถสะท้อนถึงการเปลี่ยนทิศของความเชื่อมั่นได้
กิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย: ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ทวีต โพสต์ในฟอรัม และการวิเคราะห์ความเชื่อมั่น
สัดส่วนการครองตลาด: สัดส่วนการครองตลาดของ Bitcoin ซึ่งมักกำหนดทิศทางให้กับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ
สิ่งที่คล้ายคลึงกับตลาดแบบดั้งเดิมคือดัชนีความกลัวและความโลภนั้นช่วยให้นักลงทุนหาจุดที่สุดขีดของความเชื่อมั่นได้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโอกาสในการซื้อหรือขายที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีใช้ดัชนีความกลัวและความโลภ

ดัชนีความกลัวและความโลภสามารถเป็นเครื่องมือสวนตลาดที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนได้ วิธีการใช้งานมีดังนี้:
เมื่อดัชนีแสดงความกลัวสุดขีด (0-25):
โอกาสซื้อที่มีศักยภาพ: ความกลัวสุดขีดอาจบ่งบอกว่านักลงทุนมีมุมมองในแง่ลบมากเกินไป และตลาดอาจตอบสนองมากเกินไปต่อปัจจัยในระยะสั้น ในอดีต ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นโอกาสในการซื้อ เนื่องจากราคาอาจถูกประเมินค่าต่ำเกินไปจากการที่มีความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวาง
ความเสี่ยง: แม้ว่านี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อ แต่ความกลัวสุดขีดไม่ได้หมายความว่าราคาจะดีดตัวกลับทันทีเสมอไป ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยเสมอและหาข้อมูลประกอบเพิ่มเติมก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด
เมื่อดัชนีแสดงความโลภสุดขีด (75-100):
โอกาสขายที่อาจเกิดขึ้น: ความโลภที่มากเกินไปอาจบ่งบอกว่าตลาดกำลังร้อนแรงเกินไป และราคาอาจพุ่งสูงเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในแง่บวกเกินไป นี่อาจบ่งบอกว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดการปรับฐานหรือพักตัว และอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการทำกำไรหรือลดความเสี่ยง
ความเสี่ยง: เพียงเพราะมีความโลภที่สูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะปรับตัวลงทันที บางครั้งการมีมุมมองแง่บวกมากเกินไปก็อาจอยู่ได้ยาวนานกว่าที่คาดไว้ สิ่งสำคัญคือการสร้างสมดุลระหว่างความกลัวและความโลภกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ
เมื่อดัชนีอยู่ในโซนกลาง (26-74):
ตลาดมีแนวโน้มที่จะอยู่ในภาวะสมดุล โดยไม่มีความกลัวหรือความโลภที่มากเกินไป นี่อาจเป็นช่วงที่มีความผันผวนต่ำ และนักลงทุนอาจโฟกัสไปที่เทรนด์ ปัจจัยพื้นฐาน และอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ

สรุปประเด็นสำคัญในการใช้ดัชนี:

ดัชนีความกลัวและความโลภทำหน้าที่เป็นอินดิเคเตอร์แบบสวนทางตลาด ความกลัวสุดขีดอาจเป็นสัญญาณของโอกาสในการซื้อ ในขณะที่ความโลภสุดขีดอาจเป็นสัญญาณของโอกาสในการขาย
ไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้แบบเดี่ยวๆ: แม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรใช้ดัชนีความกลัวและความโลภเพียงตัวเดียว สิ่งสำคัญคือต้องดูเครื่องมือวิเคราะห์ตัวอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค เทรนด์ตลาด และปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาค
พิจารณาช่วงเวลา: ดัชนีมักจะมีประโยชน์มากกว่าสำหรับนักลงทุนระยะสั้นหรือนักเทรดที่กำลังมองหาการเปลี่ยนทิศของความเชื่อมั่นของตลาด นักลงทุนระยะยาวอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสัญญาณความกลัวและความโลภเพียงอย่างเดียว แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากบริบทที่ดัชนีนี้ให้ได้
การใช้ดัชนีความกลัวและความโลภร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นๆ ช่วยให้นักลงทุนสามารถวัดความเชื่อมั่นของตลาดได้ดีขึ้นและตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลยิ่งขึ้น

ราคาเหรียญมาแรง

FLAKYFLAKY
WegieWegie
GUAGUA
Book of Meme 3.0Book of Meme 3.0
Ethereum UnicornEthereum Unicorn
BOME TRUMPBOME TRUMP
LOFILOFI
Snake of SolanaSnake of Solana
Moo Deng (moodeng.sbs)Moo Deng (moodeng.sbs)
TRUMP MEME (trumpmeme.net)TRUMP MEME (trumpmeme.net)
HahaYesHahaYes
TRUMP MAGA (trumpmaga.me)TRUMP MAGA (trumpmaga.me)
Neiro PumpNeiro Pump
Popcat (ERC)Popcat (ERC)

คู่มือวิธีการซื้อคริปโต