eCash (XEC) คืออะไร

eCash คืออะไร

eCash คือคริปโทเคอร์เรนซีที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเงินสดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการทำธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer มีต้นกำเนิดมาจาก Hard Fork ของบล็อกเชน Bitcoin ในเดือนพฤศจิกายน 2020 โดยเริ่มแรกมีชื่อว่า Bitcoin Cash ABC ในเดือนกรกฎาคม 2021 ได้รีแบรนด์ไปเป็น eCash (XEC) เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจในการเป็นบริการชำระเงินระหว่างประเทศที่รวดเร็ว ปลอดภัย และใช้งานง่าย โปรเจกต์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเติมเต็มวิสัยทัศน์ของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง Milton Friedman และนำทีมโดย Amaury Sechet ผู้เป็น Contributor หลักในการพัฒนา Bitcoin Cash

แหล่งข้อมูล

เอกสารทางการ: https://www.bitcoinabc.org/doc/

เว็บไซต์ทางการ: https://e.cash/

eCash ทำงานอย่างไร

eCash ดำเนินงานบนแพลตฟอร์มแบบ Multi-Layered ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Smart Contract และแอปแบบกระจายศูนย์ (DApp) ได้ โดยผสานการทำงานเข้ากับ Ethereum Virtual Machine (EVM) Subchain จึงทำให้รองรับ DApp ที่ใช้ Ethereum ความเข้ากันได้นี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถถ่ายโอนข้อมูล DApp ของตนไปยังแพลตฟอร์ม eCash ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องกำหนดค่าใหม่

เครือข่าย eCash ใช้กลไกฉันทามติ Proof of Stake (PoS) ที่เรียกว่า “Avalanche” ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ขยายการรองรับได้มากและปลอดภัยในระดับสูง เครือข่ายยังใช้เทคโนโลยี เช่น Canonical Transaction Ordering, Schnorr Signatures และ Merklix-Meta Tree เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการขยายการรองรับและความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม

eCash Token (XEC) คืออะไร

โทเค็น XEC เป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม eCash ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนมูลค่าภายในเครือข่าย รวมถึงมีความสำคัญต่อการ Stake และการกำกับดูแล ในช่วงแรกเริ่มมีการแจกจ่ายโทเค็นในชื่อ Bitcoin Cash ABC (BCHA) และต่อมาได้แปลงไปเป็น XEC ในอัตรา 1:1,000,000 การเปลี่ยนแปลงค่าเงิน (Redenomination) นี้ยังทำให้ดูตำแหน่งทศนิยมได้ง่ายขึ้นด้วย จึงทำให้ธุรกรรมใช้งานง่ายขึ้น เช่น แทนที่จะส่ง 0.00001000 BTC ก็จะเป็นการส่ง 10 bit ด้วย eCash แทน

ปัจจัยใดบ้างส่งผลต่อราคา eCash Token (XEC)

มีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาของโทเค็น XEC ได้:

- อุปสงค์และอุปทาน: ระบบออก XEC ไปแล้วประมาณ 92% ทำให้เกิดความขาดแคลน (Scarcity) กระแสโทเค็นใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาด ความขาดแคลนนี้อาจช่วยลดอัตราเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อราคาของโทเค็นได้

- การ Stake: กลไกการ Stake ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลเป็นผลตอบแทน ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจในการถือโทเค็น XEC จึงสามารถขับเคลื่อนความต้องการและราคาได้

- การใช้งานและอรรถประโยชน์: โทเค็นรองรับการใช้งาน EVM ของ Ethereum และการใช้งานในแอปพลิเคชัน Decentralized Finance (DeFi) สามารถดึงดูดฐานผู้ใช้ที่กว้างขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่า

- ความเชื่อมั่นของตลาด: เช่นเดียวกับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ ทั้งหมด ราคาของโทเค็น XEC จะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของตลาด ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลมาจากข่าวสาร โซเชียลมีเดีย และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ได้

- การพัฒนาทางเทคโนโลยี: การอัปเกรดหรือฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในแพลตฟอร์ม eCash อาจส่งผลต่อราคาของโทเค็นได้เช่นกัน

ผลกระทบของ eCash ในด้านการเงิน

eCash พร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ทางการเงินโดยทำให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างถ้วนหน้า ยกระดับความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม และส่งเสริมนวัตกรรมในด้าน Decentralized Finance (DeFi) ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำและเวลาในการประมวลผลที่รวดเร็วทำให้เป็นโซลูชันที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อีกทั้งอาจขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินไปยังกลุ่มประชากรที่ได้รับบริการทางการเงินไม่ทั่วถึง (Underserved) ด้วย ฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวของแพลตฟอร์มนำเสนอสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรม ในขณะที่ความเข้ากันได้กับแอปพลิเคชันที่ใช้ Ethereum ก็เปิดช่องทางใหม่ๆ ให้กับนวัตกรรม DeFi นอกจากนี้ กลไกการ Stake ยังมอบทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงและมีความเสี่ยงน้อยลง ทำให้ eCash เป็นโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมสำหรับยุคดิจิทัล

บทสรุป

โดยสรุป eCash เป็นโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมซึ่งมีเป้าหมายในการทำให้ธุรกรรมรวดเร็วขึ้น ถูกลง และปลอดภัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและการสนับสนุนจากชุมชนที่แข็งแกร่งทำให้ eCash มีศักยภาพที่จะก้าวมามีบทบาทสำคัญในอนาคตแห่งการเงินยุคดิจิทัล