เครื่องมืออัจฉริยะสำหรับนักเทรด: การเทรด Futures Grid บน Bitget
นอกจาก การเทรด Spot Grid บน Bitget ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนที่ผ่านมา เดือนมิถุนายนนี้ทีมงาน Bitget ก็ได้พัฒนาเครื่องมือการเทรดอัตโนมัติอีกรูปแบบหนึ่งได้สำเร็จ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเทรด Futures และ Margin ของเรา Bitget มีความภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีการเทรดทั้งแบบ Spot Grid และ Futures Grid ให้เลือกใช้งาน คุณจะได้พบกับประสบการณ์การเทรดคริปโตที่ตึงเครียดน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ผ่านการเทรด Futures Grid ของ Bitget!
โดยทั่วไปแล้ว การเทรด Futures และ Spot Grid จะมีองค์ประกอบพื้นฐานบางอย่างที่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม การเทรด Futures Grid จำเป็นต้องใช้แนวทางการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น สามารถอ่านได้ที่บทความนี้เลย
คำอธิบายเกี่ยวกับการเทรด Futures Grid
การเทรด Grid คือ กลยุทธ์การเทรดแบบ Quantitative ที่ออกแบบมาเพื่อการ "ซื้อในราคาต่ำ" และ "ขายในราคาสูง" ในตลาดที่มีการจำกัดกรอบราคา (Range-bound Market) กล่าวคือนักเทรดจะสามารถทำกำไรได้ทั้งช่วงราคาขึ้นและลงในตลาด คุณสามารถตั้งค่าช่วงราคาสำหรับใช้งานในบอท และกำหนดจำนวนกริดที่ต้องการได้ ตราบใดที่ราคาสินทรัพย์ยังคงอยู่ในช่วงราคาที่คุณตั้งไว้ บอทจะดำเนินการบางอย่างเสมอ หากราคาสินทรัพย์สูงขึ้น บอทจะดำเนินการขาย / เปิด Short Position ส่วนในกรณีที่ราคาสินทรัพย์ต่ำลง บอทจะดำเนินการซื้อ / เปิด Long Position โดยอิงจากสิ่งที่คุณตั้งค่าไว้นั่นเอง
การเทรด Grid คือ การใช้งานบอทเพื่อช่วยวาง Strategic Order ให้กับนักเทรด และสร้างสิ่งที่เรียกกันว่า "Price Grid" โดย Price Grid จะได้รับการกำหนดขึ้นจากชุดพารามิเตอร์ ดังต่อไปนี้
ขีดจำกัดราคาสูงสุด (Upper Limit Price): ราคาสูงสุดที่คาดการณ์ไว้
ขีดจำกัดราคาต่ำสุด (Lower Limit Price): ราคาต่ำสุดที่คาดการณ์ไว้
จำนวนของกริด (Number of Grid): จำนวน Order ซื้อ-ขาย สูงสุดที่กำหนดไว้ใน Grid
ระยะห่างของ Grid (Grid Spacing): ความแตกต่างของราคา (โหมดเลขคณิต / Arithmetic Mode) หรือเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของราคา (โหมดเรขาคณิต / Geometric Mode) ในแต่ละ Order
Margin ขั้นต้น (Initial Margin): Equity ขั้นต่ำสำหรับการเปิด Position ใหม่
เลเวอเรจ (Leverage): เลเวอเรจจะแสดงข้อมูลว่าเงินทุนขั้นต้นสามารถเพิ่มได้เป็นจำนวนกี่เท่า
โหมด Margin (Margin mode): ลักษณะที่ Margin ถูกนำมาใช้งานใน Position เช่น ในโหมด Isolated Margin หรือ โหมด Cross Margin
ระดับทริกเกอร์ / Stop Loss / Take Profit สำหรับการตั้งค่าขั้นสูง
วิธีการเทรดลักษณะนี้ได้ผ่านการคิดค้นและทดสอบมาเป็นอย่างดีในตลาดแบบต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ดังนั้นในปัจจุบัน Bitget จึงนำวิธีการเทรดดังกล่าวมาให้บริการในแพลตฟอร์มเพื่อให้ผู้ใช้ของเรานำความผันผวนของสินทรัพย์คริปโตมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้เช่นกัน และพวกเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีการเทรดทั้งแบบ Spot Grid และ Futures Grid ให้เลือกใช้งาน
การเทรด Futures Grid ถูกออกแบบมาอย่างไร
แนวคิดแรกเริ่มที่อยู่เบื้องหลังกลยุทธ์การเทรด Grid คือ การซื้อในราคาต่ำ (Buy Low) และขายในราคาสูง (Sell High) แต่โปรดจำไว้ว่ากลยุทธ์การเทรด Futures Grid จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อใช้เทรดสินทรัพย์ในสภาวะตลาดแบบ Sideways - บอทจะทำการจับคู่ Order ซื้อและขายอย่างต่อเนื่อง หากราคาของสินทรัพย์อยู่ภายในช่วงราคาที่นักเทรดต้องการ
จากตัวอย่าง Price Grid ด้านบน สมมุติว่านักเทรดตั้งค่าราคาต่ำสุดและสูงสุดโดยอิงจากความชอบส่วนตัว จะเห็นได้ว่าเมื่อระดับราคาของสินทรัพย์ในปัจจุบันสูงกว่าเส้นสีเขียวที่อยู่เหนือเส้นสีม่วงขึ้นไป บอทจะเปิด Short Position รายการแรก และถ้าหากราคายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ตั้งไว้ บอทก็จะทำการเปิด Short Position อื่นๆ ตามลำดับหลังจากนั้น อย่างที่เราเห็นว่า ตอนนี้ราคาสินทรัพย์เกือบจะสูงถึงราคาสูงสุดที่ตั้งไว้แล้ว หมายความว่าบอทจะไม่ดำเนินการเปิด Short Position อีกต่อไป แต่ในกรณีที่ราคาสินทรัพย์เริ่มลดลง Short Position จะถูกปิดลงโดยอัตโนมัติตามระยะห่างของ Grid ที่ตั้งค่าไว้ ตัวอย่างเช่น กำไร ณ จุดความยาว Grid ที่ 1.5 วัดจากราคาเปิดของ Short Position ดังกล่าว
การซื้อและขายอย่างต่อเนื่องเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดที่ว่า สินทรัพย์ดังกล่าวมีราคาเปลี่ยนแปลงไปมาในลักษณะ Sideways มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ที่นักเทรดสูญเสีย Position อย่างต่อเนื่องและขาดทุนอย่างรุนแรงได้ เราแนะนำให้นักเทรดมือใหม่เริ่มต้นเทรดในคู่เทรดหลักๆ เช่น BTCUSDT หรือ ETHUSDT จนกว่าจะคุ้นชินกับตลาดและลักษณะการเทรด ไปจนถึงจุดที่สามารถเลือกปรับระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมได้
ใครสามารถใช้การเทรด Futures Grid ได้บ้าง
โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าใครก็สามารถเพิ่มฟีเจอร์บอทอัตโนมัติอันเป็นประโยชน์นี้เข้าสู่แผนการเทรดของตนเองได้ทั้งนั้น ยิ่งผนวกกับการออกแบบอันเรียบง่ายของการเทรด Futures Grid บน Bitget ก็ยิ่งทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถจัดประเภทหลักๆ ของนักเทรดที่เหมาะกับกลยุทธ์การเทรดนี้ได้เช่นกัน ได้แก่
(a) ผู้ขาย Short: ในขณะที่นักเทรด Futures ส่วนใหญ่มักเน้นเปิด Long Position ผู้ขาย Short Position กลับคาดหวังให้ราคาสินทรัพย์ลดต่ำลงอย่างชัดเจน ซึ่งโดยปกติแล้วถือเป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงสูง แต่หากใช้งานการเทรด Futures Grid ควบคู่ไปด้วย ความเสี่ยงดังกล่าวก็จะได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด การตัดสินใจเลือก Short Position จะเป็นทางเลือกที่ได้กำไรมากกว่า เมื่อราคาในตลาดไม่เป็นไปตามแนวทางของนักเทรด Long กล่าวคือผู้ขาย Short Position จะสามารถเก็บสะสมค่าธรรมเนียม Funding จากผู้ถือ Long Position ได้นั่นเอง โปรดจำไว้ว่าการเทรด Grid จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือมีสภาวะแบบ Sideways เราขอแนะนำให้นักเทรดปรับกลยุทธ์ของตนเองให้เหมาะสมตามเงื่อนไขดังกล่าว
(b) นักเทรดที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเทรด Margin และ/หรือ นักเทรดที่ต้องการเทรดแบบมีความเสี่ยงต่ำ: แม้ว่าการเทรด Margin จะทำให้ผลลัพธ์การลงทุนเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน ในขณะที่การเทรด Futures Grid เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตั้งค่าราคาสูงสุดและต่ำสุดได้อย่างอิสระด้วยตนเอง ตอบโจทย์ในด้านการบริหารความเสี่ยง และอาจช่วยลดโอกาสในการขาดทุนได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เครื่องมือเพื่อเพิ่มผลลัพธ์การลงทุนหรือไม่ก็ตาม
(c) นักเทรดที่ไม่อยากนั่งมองหน้าจอเพื่อติดตามการเทรดตลอดเวลา: คำว่า "อัตโนมัติ" หมายถึง ความอิสระและการลดภาระสำหรับนักเทรดหลายๆ คน แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีความผันผวนสูงและไม่เคยหลับใหล แต่คุณไม่จำเป็นต้องสังเกตการณ์ตลอดเวลาอีกต่อไปแล้ว เพียงแค่ใช้ฟีเจอร์การเทรด Futures Grid ที่มีให้บริการบน Bitget
(d) นักเทรดมือใหม่: นักเทรดมือใหม่ในตลาดคริปโตก็สามารถใช้ฟีเจอร์การเทรด Futures Grid ได้ ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยเหมาะแก่การใช้ทำความคุ้นเคยกับความเคลื่อนไหวในตลาด อีกทั้งการเทรด Futures Grid ของ Bitget ยังมีโหมดอัตโนมัติที่สามารถกำหนดค่าพารามิเตอร์พื้นฐานโดยอิงจากประวัติการเทรดของคุณไว้ให้บริการด้วย
เราแนะนำให้นักเทรดมือใหม่ศึกษาคู่มือการใช้งานการเทรด Futures บนแพลตฟอร์มของเรา เพื่อให้เข้าใจความเป็นไปและความเคลื่อนไหวต่างๆ ในตลาดมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะวาง Order ใดๆ โดยบทความที่เราแนะนำ มีดังนี้
คู่มือการเทรด Futures ของ Bitget
คู่มือการเทรด Margin ของ Bitget
ทำความเข้าใจเรื่องการจัดการความเสี่ยง
โดยรวมแล้ว การเทรด Futures Grid จะสามารถสร้างกำไรได้หากตลาดมีความผันผวน ซึ่งหมายถึงว่านักเทรดเองก็ไม่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดของราคาและคาดการณ์เทรนด์ต่อไปที่จะเกิดขึ้น การเทรดในลักษณะนี้จึงเรียกได้ว่า เป็นการใช้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของราคาในช่วงที่ตลาดเงียบสงบนั่นเอง
แม้ว่าจะมีการดำเนินการหลายขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์นี้ แต่บอทสำหรับการเทรดจะทำหน้าที่เหล่านั้นโดยอัตโนมัติหลังจากได้รับข้อมูลการตั้งค่าต่างๆ จากผู้ใช้ แน่นอนว่าเราแนะนำให้คุณตรวจสอบผลลัพธ์การเทรดเป็นประจำ รวมถึงให้ความสำคัญกับข่าวสารด้านการตลาดอยู่เสมอ แต่โดยปกติแล้วการใช้กลยุทธ์นี้จะสามารถช่วยให้คุณเทรดอย่างไม่ยุ่งยากได้อย่างแน่นอน
สิ่งหนึ่งที่ควรจำไว้เสมอก็คือ การเทรด Grid เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ Order จำนวนมาก นักเทรดควรที่จะติดตามผลและปรับจำนวน Order การเทรดเพื่อจัดการค่าธรรมเนียมการเทรดให้ลงตัวและเหมาะสมด้วย
คู่มือการเทรด Futures Grid บน Bitget
หากใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตอันหลากหลายบนแพลตฟอร์มของเราแล้ว การเทรด Futures Grid ของ Bitget ก็อาจกลายเป็นเครื่องมือการเทรดสุดโปรดของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมและความสะดวกที่มอบให้แก่ผู้ใช้
เปิดประสบการณ์เทรดของคุณกับ Bitget
Bitget ได้ก้าวเข้าสู่การเป็น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำ ติดอันดับ Top 30 ของโลก ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีหลังจากเปิดตัว และยังรักษาอัตราการเติบโตของแพลตฟอร์มที่ 67% ต่อเดือนได้อย่างต่อเนื่อง ในเดือนมกราคม ปี 2022 Bitget ได้ครองอันดับที่ 2 ของการเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดในระดับโลก โดยพิจารณาจากปริมาณการเทรด Futures เฉลี่ยรายวัน นอกจากนั้น Bitget Coin-Ⓜ Futures ก็ได้ทำสถิติปริมาณการเทรดสูงสุดตลอดกาลที่ $8.69 พันล้าน ซึ่งคิดเป็นการเติบโตเพิ่มมากขึ้นถึง 300% จากสถิติในปีที่ผ่านมา การที่ Bitget มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้อยู่เสมอ ทำให้แพลตฟอร์มของเรามีฐานลูกค้ามากถึง 2 ล้านคน จาก 48 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว
Bitget ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอันดับหนึ่ง การออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ การนำไปใช้งานได้จริง และความสะดวกสบาย สำหรับเราแล้วการทำลายอุปสรรคต่างๆ ในการเข้าสู่ การเทรดคริปโต รวมถึงเพิ่มการใช้งานให้คริปโตในสังคมวงกว้างนั้นเป็นสิ่งสำคัญเสมอ
การเทรด Futures Grid ของ Bitget ใช้งานอย่างไร
การตั้งค่าพื้นฐาน vs. การตั้งค่าขั้นสูง
จำเป็นต้องมีการตั้งค่าพื้นฐานเพื่อสร้าง Grid สำหรับการเทรดเสมอ โดยพารามิเตอร์ต่างๆ มีดังนี้
ช่วงราคา: ราคาสูงสุด (Upper Price) และ ราคาต่ำสุด (Lower Price)
จำนวนของ Grid: ช่วงราคาหารด้วยความแตกต่างของราคาในแต่ละ Order
ยอดคงเหลือ: ยอดคงเหลือปัจจุบันในบัญชี Futures ของคุณ
Margin ขั้นต้น: จำนวน Equity ที่ใช้เพื่อเริ่มการเทรด Grid
เลเวอเรจ (Leverage): นัดเทรดควรปรับระดับเลเวอเรจที่ต้องการโดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ รวมถึง Margin ขั้นต้นและสถานการณ์ในตลาด เนื่องจาก คริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูง เราจึงขอแนะนำให้เลือกระดับเลเวอเรจที่เหมาะสม ไม่ใช่เลเวอเรจสูงสุดหรือใกล้ถึงระดับสูงสุด นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดูระดับเลเวอเรจที่แนะนำโดย AI ผ่านฟีเจอร์การเทรด Futures Grid ของ Bitget ได้ หากเกิดกรณีที่ตั้งค่าเลเวอเรจในระดับสูงเกินกว่าที่ควร
โหมด Margin: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมด Margin ได้อย่างอิสระทั้งโหมด Isolated Margin หรือ Cross Margin เพื่อทำการตั้งค่าให้ Grid ทำงานอัตโนมัติ
การตั้งค่าขั้นสูงจะต้องมีการกำหนดระดับราคาต่างๆ ดังต่อไปนี้
ราคาทริกเกอร์: การเทรด Grid จะเกิดขึ้นเมื่อราคาตลาดสูงถึงราคาทริกเกอร์
Take Profit: การดำเนินการเทรด Grid จะหยุดลงเมื่อราคาตลาดสุดท้ายสูงถึงราคา Take Profit
Stop Loss: การดำเนินการเทรด Grid จะหยุดลงเมื่อราคาตลาดสุดท้ายสูงถึงราคา Stop Loss
ขีดจำกัดราคาเปิด: การจำกัดส่วนต่างระหว่างราคาที่คาดการณ์ไว้และราคาจริงที่เกิดขึ้นของ Order เช่น Slippage Limit
ปิด Position ทั้งหมดเมื่อเกิดการยุติ Grid: หากเปิดตัวเลือกนี้ จะทำให้ Position ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ถูกปิดทันทีที่การดำเนินการเทรด Grid ยุติลง
คู่มือการใช้งานทีละขั้นตอน
ผู้ใช้ Bitget สามารถเทรด Futures Grid ได้โดยตรงผ่าน เว็บไซต์ทางการของ Bitget หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ (พร้อมให้ใช้งานในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android) โดยทำตามขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: เลือกการเทรดกลยุทธ์และคลิก Futures Grid เพื่อเริ่มต้นเทรด
คุณสามารถไปที่ หน้าการเทรด Futures Grid เพื่อเริ่มต้นเทรดได้เช่นกัน
ขั้นตอนที่ 2: เลือกคู่เทรดและตั้งค่าพารามิเตอร์
โปรดจำไว้ว่าบอทจะไม่สามารถดำเนินการได้หากไม่ตั้งค่าคุณลักษณะการเทรดที่คุณต้องการ หากคุณเลือก AI Strategy (โหมดอัตโนมัติ) Bitget จะแสดงค่าพารามิเตอร์แนะนำที่ได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการเทรดของคุณในช่วง 7 วันที่ผ่านมา นอกจากนั้นคุณต้องกรอกจำนวนเงินลงทุนที่แบ่งสรรไว้สำหรับการเทรด Grid นี้ด้วย
ส่วนการสร้างด้วยตนเอง (โหมดตั้งค่าด้วยตนเอง) จะเหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ โดยสรุปแล้วการตั้งค่าพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกำหนดค่าทุกครั้งก่อนทำการเทรด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็แนะนำให้ใช้การตั้งค่าขั้นสูงควบคู่ไปด้วย หากต้องการพัฒนาประสิทธิภาพของ Grid และเพื่อการจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้น
เปิด "การตั้งค่าขั้นสูง / Advanced Setting" เพื่อตั้งค่าพารามิเตอร์ขั้นสูงของตนเอง
หากคุณต้องการปิด Position การเทรด Grid ที่เปิดอยู่ทั้งหมดเมื่อเกิดการยุติกลยุทธ์ ให้คุณคลิกที่เครื่องหมายถูกดังในภาพ คลิก "สร้าง / Create" เท่านี้คุณก็สร้าง Grid ของตนเองได้แล้ว!
ขั้นตอนที่ 3: สังเกตการเทรด Spot Grid ของตนเองได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิกที่ "กำลังดำเนินการ / Running" เพื่อตรวจสอบการเทรด Grid ที่กำลังรอดำเนินการและที่กำลังทำงานอยู่ ปุ่ม "ยุติ / Terminate" ใช้สำหรับปิด Position ทั้งหมดในการเทรด Futures Grid (ผลกำไรและขาดทุนจะถูกคำนวณจากราคาตลาดปัจจุบัน) ส่วนปุ่ม "แชร์ / Share" ใช้สำหรับแชร์กลยุทธ์ของคุณ
คลิกที่ "ประวัติ / History" เพื่อตรวจสอบการเทรดทั้งหมดที่ผ่านมา
หมายเหตุ:
แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนตั้งระดับราคาสำหรับ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับสูตรการคำนวณที่จำเป็นสำหรับการเทรด Grid โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่คู่มือช่วยเหลือของเรา ที่นี่
ตัวอย่าง
ตัวอย่างนี้ใช้คู่เทรด BTCUSDT โดยมีค่าพารามิเตอร์ตามด้านล่าง
ราคาสูงสุด (ในสกุล USDT): 60,000
ราคาต่ำสุด (ในสกุล USDT): 40,000
จำนวนของกริด: 5 (โหมด Arithmetic)
จำนวนเงินลงทุน (ในสกุล USDT): 10,000
ราคา BTC ปัจจุบัน (ในสกุล USDT): 50,000
เมื่อช่วงราคา คือ 60,000 - 40,000 = 20,000 และจำนวน Order ทั้งหมดคือ 5 Order (โหมด Arithmetic) เราจะได้ค่าความแตกต่างของราคาในแต่ละ Order เท่ากับ 20,000/5 = 4,000 ดังนั้นระดับราคาที่ควรต้องพิจารณาจึงเท่ากับ 60,000 - 56,000 - 52,000 - 48,000 - 44,000 - 40,000 ตามลำดับ
การเทรด Futures Grid บน Bitget ใช้ Normal Grid หมายถึงการที่ Order จะดำเนินการตาม Grid ที่ตั้งค่าไว้จากบนลงล่าง เช่นในกรณีนี้ การดำเนินการ Grid จะเริ่มต้นด้วย Long Position ที่ราคา 56,000 เนื่องจากราคาสูงสุดที่กำหนดไว้ คือ 60,000 ส่วนราคาตลาด ณ ปัจจุบัน คือ 50,000 ดังนั้น Long Position ดังกล่าวจะถูกดำเนินการและทริกเกอร์การปิด Position ที่ราคา 60,000 นั่นเอง
ในกรณีที่ราคาตกลงสู่ 48,000 ระบบจะเปิด Long Position อีกหนึ่งครั้งด้วยราคาปิด Position ที่ 52,000
เช่นเดียวกันกับการเปิด Position ที่ราคา 44,000 จะมาพร้อมกับราคาปิด Position ที่ 48,000 และ Long Position รายการสุดท้ายจะเปิดขึ้นที่ราคา 40,000 พร้อมราคาปิดที่ 44,000
การควบคุมความเสี่ยง
เราแนะนำให้ผู้ใช้ติดตามเทรนด์ของตลาดและข่าวสารที่เกี่ยวข้องเพื่อตั้งค่า Grid ให้เหมาะสมตามข้อมูลดังกล่าว การเทรดสินทรัพย์คริปโตมีความเสี่ยงสูง ผู้ใช้ควรมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุม
โปรดทราบว่าข้อมูลการเทรด Spot Grid บน Bitget ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนของ Bitget แต่อย่างใด การเทรด Grid จะถูกใช้งานภายใต้ดุลยพินิจและการยอมรับความเสี่ยงของคุณเอง Bitget มิได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจใช้งานฟีเจอร์นี้ของผู้ใช้ เราแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนตัดสินใจอย่างรอบคอบและมีเหตุผลโดยประเมินระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ หลังจากศึกษาคู่มือการเทรด Grid โดยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว
ลงทะเบียนบัญชี Bitget ของคุณ เพื่อรับรางวัลสำหรับผู้ใช้ใหม่มูลค่า $5005 และติดตามพวกเราได้ทางโซเชียลมีเดียด้านล่างนี้
Twitter | Telegram | LinkedIn | Facebook | Instagram
