ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ของเลเวอเรจใน Copy Trading: เหตุใดการเลือกอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ
Bitget Copy Trade ทำให้การเทรดคริปโตเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นด้วยการทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามนักเทรดผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า Bitget Elite Trader ในขณะที่ยังคงเป็นผู้ควบคุมการเปิดรับความเสี่ยงของตนเอง และด้วยการที่ Bitget เสนอเลเวอเรจสูงสุดถึง 50x สำหรับ Copy Trading ทำให้ทั้ง Elite Trader และ Copier ต่างก็มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดสรรเงินทุน ซึ่งทำให้สามารถจัดการ Position แบบไดนามิกได้ แม้ว่าเลเวอเรจจะสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ด้วยเช่นกัน ทำให้จำเป็นต้องเลือกนักเทรดและการจัดการความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์อย่างรอบคอบ โดย Copier จะต้องประเมิน Elite Trader ที่ตนคัดลอกอยู่เสมอ ปรับการตั้งค่าเลเวอเรจของตน และทำความเข้าใจว่ากลไกการยืนยันและการติดตามตรวจสอบ Elite Trader ของ Bitget Copy Trade ทำงานอย่างไรในการปกป้องเงินทุนของตน
เลเวอเรจ: เครื่องมือแห่งความยืดหยุ่น ไม่ใช่ทางลัดสู่ผลกำไร
เลเวอเรจช่วยให้ Elite Trader สามารถเพิ่มการเปิดรับความเสี่ยงในตลาดให้มากขึ้นได้ แม้ว่าจะใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 10x นักเทรดสามารถเปิด Position มูลค่า $10,000 ได้ด้วยเงินทุนเพียง $1,000 และด้วยเลเวอเรจ 50x นักเทรดคนเดียวกันนี้ก็จะสามารถควบคุมสินทรัพย์มูลค่า $50,000 ได้ด้วยเงินทุนจำนวนที่เท่ากัน
ซึ่งเป็นการมอบประสิทธิภาพด้านเงินทุนและความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์ให้แก่ Bitget Elite Trader ทำให้ตอนนี้พวกเขาสามารถป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การเทรดของตนได้ นอกจากนี้ Copier ยังได้รับประโยชน์จากความสามารถในการปรับตัวดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาได้รับการสนับสนุนให้ปรับระดับเลเวอเรจที่พวกเขายอมรับได้ และไม่ถูกบังคับให้ต้องเปิดรับความเสี่ยงในแบบเดียวกันกับ Elite Trader ที่พวกเขาติดตาม
อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจไม่ได้รับประกันความสามารถในการทำกำไร เพราะจะเพิ่มทั้งผลกำไรที่อาจได้รับและการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น หากการเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงเคลื่อนไหวสวนทางกับที่นักเทรดได้คาดไว้ ก็จะเกิดการสะสมการขาดทุนที่เร็วขึ้นมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ Liquidation (การบังคับขาย) ได้ หากไม่มีการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม Copier ก็อาจได้รับความเสี่ยงเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว
การทำงานของเลเวอเรจใน Copy Trading
เมื่อ Copier คัดลอก Elite Trader บน Bitget Copy Trade ก็จะเป็นการยอมรับการตั้งค่าเลเวอเรจของนักเทรดโดยอัตโนมัติ เว้นแต่ว่า Copier จะเปลี่ยนการตั้งค่าเลเวอเรจด้วยตนเอง ซึ่งหมายความว่าหากนักเทรดเปิด Position โดยใช้เลเวอเรจ 50x ไว้ Copier ที่ไม่ได้ตั้งขีดจำกัดเลเวอเรจแบบกำหนดเองก็จะเปิดรับความเสี่ยงในระดับเดียวกันด้วย
นี่จึงเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำความเข้าใจนิสัยการใช้เลเวอเรจและแบบบันทึกข้อมูลบัญชีความเสี่ยง (Risk Profile) โดยรวมของนักเทรด นักเทรดที่มักจะใช้เลเวอเรจในระดับที่สูงสุดขีด (เช่น 50x) อาจทำให้ Copier ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อ Liquidation (การบังคับขาย) โดยไม่จำเป็น ในขณะที่นักเทรดที่ใช้เลเวอเรจในระดับปานกลางและมีกลยุทธ์ (เช่น 5x–10x) อาจให้ประสบการณ์ที่เสถียรกว่า
โดย Bitget ช่วยลดความเสี่ยงนี้โดยอนุญาตให้ Copier ดำเนินการต่อไปนี้
● ปรับการตั้งค่าเลเวอเรจด้วยตนเองเพื่อให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตน
● ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของ Elite Trader แบบเรียลไทม์เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีสบายใจกับการเปิดรับความเสี่ยงที่ใช้อยู่
● เลือก Elite Trader จากรายชื่อที่ได้รับการยืนยันและติดตามตรวจสอบโดย Bitget แล้ว เพื่อลดโอกาสในการใช้กลยุทธ์ที่ประมาท
การทำความเข้าใจว่าเลเวอเรจมีการถ่ายโอนอย่างไรใน Copy Trading นั้นมีความสำคัญต่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน
เหตุใดการไล่ตามผลตอบแทนสูงๆ อย่างสุ่มสี่สุ่มห้าจึงเป็นกับดักใน Copy Trading
ข้อผิดพลาดที่มักพบในหมู่ Copier คือ การเลือก Elite Trader โดยพิจารณาจากกำไรในอดีตเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้วิเคราะห์แบบบันทึกข้อมูลบัญชีความเสี่ยง (Risk Profile) ที่อยู่เบื้องหลังผลตอบแทนเหล่านั้น ซึ่งแบบบันทึกข้อมูลบัญชีความเสี่ยง (Risk Profile) หมายถึงระดับความเสี่ยงที่นักเทรดมักรวมไว้ในกลยุทธ์ของตน ซึ่งจะรวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น การใช้เลเวอเรจ การขาดทุนสะสม และการจัดสรร Position โดย Elite Trader บางคนทำกำไรได้สูงจากการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไป แต่กลยุทธ์เหล่านี้ไม่ได้ยั่งยืนเสมอไป
ลองพิจารณาดู Elite Trader 2 คนบน Bitget Copy Trade คนแรกได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอที่เดือนละ 20% โดยใช้เลเวอเรจปานกลาง (3x–10x) และมีการขาดทุนสะสมต่ำ ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้รับผลตอบแทน 70% แต่ใช้เลเวอเรจ 50x บ่อยครั้ง และมีการขาดทุนสะสมจำนวนมาก อย่างหลังอาจดูน่าดึงดูดใจมากกว่าในระยะสั้น แต่กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ Copier ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างมาก
แทนที่จะไล่ตามผลตอบแทนสูงๆ เพียงอย่างเดียว Copier ควรประเมินนิสัยการใช้เลเวอเรจ การควบคุมความเสี่ยง และความสามารถในการปรับตัวตามความผันผวนของตลาดของนักเทรดด้วย แม้ระบบการยืนยันและและติดตามตรวจสอบ Elite Copy Trader ของ Bitget ช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากความประมาทในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ Copier ก็ยังคงต้องทำหน้าที่ของตนเองในการประเมินว่าควรจะคัดลอกใคร
คุณสามารถค้นหา Elite Trader ที่ได้รับการยืนยันแล้วได้ทุกเมื่อโดยการทำเครื่องหมายในช่องดังที่แสดงในรูปภาพ
การเกิด Liquidation (การบังคับขาย) เลเวอเรจต่อเนื่องเป็นทอดๆ: ทำความเข้าใจความเสี่ยงเชิงระบบใน Copy Trading
ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่อย่างหนึ่งใน Copy Trading คือผลกระทบแบบต่อเนื่องเป็นทอดๆ ของ Liquidation (การบังคับขาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเทรดที่มีความเสี่ยงสูงมี Copier ที่ใช้เลเวอเรจหลายพันราย
หากนักเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงต้องเผชิญกับ Liquidation (การบังคับขาย) การถูกบังคับปิด Position ของนักเทรดเหล่านี้อาจทริกเกอร์ให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ของ Liquidation (การบังคับขาย) ในหมู่ Copier ได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงขายที่สูงอยู่แล้วให้รุนแรงขึ้น และเพิ่มความผันผวนให้มากขึ้นไปอีก แม้ว่าการติดตามตรวจสอบ Elite Trader ของ Bitget จะมีจุดมุ่งหมายในการลดการเทรดที่ประมาท แต่ Copier ก็ต้องบริหารจัดการการเปิดรับความเสี่ยงจากเลเวอเรจของตนในเชิงรุกเพื่อป้องกันไม่ให้ติดร่างแหดังกล่าวไปด้วย
เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไป Copier ควร:
● ปรับแต่งการตั้งค่าเลเวอเรจตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของคุณ:
● ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของ Elite Trader ทั้งก่อนและในช่วงเวลาที่คัดลอกเพื่อระบุว่ามีความเสี่ยงที่มากเกินไปหรือไม่ โดยการตรวจสอบสถิติของพวกเขา ซึ่งสถิติที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่างก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง:
● กระจายความเสี่ยงไปยัง Elite Trader หลายๆ คนที่มีโปรไฟล์และกลยุทธ์การใช้เลเวอเรจที่แตกต่างกัน:
มีสรุปกิจกรรมของ Elite Trader แต่ละคนไว้สำหรับให้ผู้ใช้ได้ตรวจสอบก่อนที่จะดำเนินการใดๆ โดยจะประกอบด้วยความถี่ในการซื้อขาย, ROI, กำไรทั้งหมด, คู่เทรดที่มีสำหรับ Copy Trading, การจัดสรรสินทรัพย์, ระยะเวลา Position, ปริมาณการเทรด, ประวัติ Order, รายชื่อ Copier (พร้อมปริมาณการเทรดและกำไรสำหรับแต่ละคน) นอกจากนี้ ตราและคำอธิบายโปรไฟล์ก็ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการประเมินกลยุทธ์ของพวกเขา
การใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงในตัวของ Bitget จะทำให้ Copier สามารถรักษาควบคุมการเปิดรับความเสี่ยงของตนได้ดีขึ้นเพื่อแนวทาง Copy Trading ที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
ทำความเข้าใจความผันผวนของตลาด: การฝ่าฟันความไม่แน่นอนใน Copy Trading
ความผันผวนของตลาดหมายถึงความถี่และความรุนแรงของการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ของ Leveraged Trading
ในช่วงที่มีความผันผวนสูง นักเทรดทุกคนมักจะประสบกับการแกว่งตัวของราคาที่รวดเร็ว ซึ่งอาจไปทริกเกอร์ Stop Loss หรือ Liquidation (การบังคับขาย) ก่อนที่การเทรดจะมีเวลาฟื้นตัว และจะยิ่งมีผลกระทบมากขึ้นใน Position ที่มีเลเวอเรจสูง เนื่องจากความผันผวนของราคาเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้ขาดทุนทั้งบัญชีได้
ความผันผวนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการเทรดแต่ละรายการเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกำหนดความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวมอีกด้วย ราคาที่พุ่งขึ้นหรือลดลงอย่างกะทันหันอาจทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย) ที่เกิดจากความตระหนก และเกิดเป็นการสูญเสียแบบทวีคูณในหลาย Position และในนักเทรดหลายคน ดังนั้น การทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวเหล่านี้ของตลาดจึงถือเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงการเปิดรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นใน Copy Trading
กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงสำหรับ Copier
Copy Trading ที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องมีการจัดการความเสี่ยงอย่างจริงจังไม่ใช่เพียงแค่ติดตามเฉยๆ ประการแรก Copier ควรตั้งความคาดหวังที่เป็นไปได้จริง Copy Trading ไม่ใช่เครื่องสร้างผลกำไรที่มีการรับประกัน และมีความเป็นไปได้ที่จะขาดทุน จึงควรใช้เลเวอเรจอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ใช่ด้วยอารมณ์
การติดตามตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่า Bitget Copy Trade จะมีการติดตามแบบเรียลไทม์และมีการยืนยัน Elite Trader แต่สภาวะตลาดก็เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น Copier ควรดำเนินการดังนี้เป็นระยะๆ:
● ตรวจสอบผลการดำเนินงานของนักเทรดและการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์
● ประเมินการตั้งค่าเลเวอเรจอีกครั้งตามสภาวะตลาด
● เพิ่มความหลากหลายในพอร์ตเพื่อลดการพึ่งพาแนวทางของนักเทรดรายเดียว
ข้อคิดสำคัญ: เลเวอเรจเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่เครื่องรับประกันความสำเร็จ
แม้ว่า Bitget Copy Trade จะมีความยืดหยุ่น การยืนยันผู้เชี่ยวชาญ และการติดตามตรวจสอบ แต่ Copy Trading ที่ประสบความสำเร็จก็ยังคงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังจาก Copier อยู่ ซึ่งการคัดเลือก Elite Trader อย่างชาญฉลาด การปรับการตั้งค่าเลเวอเรจ และการตระหนักถึงไดนามิกความเสี่ยงอยู่เสมอ ก็จะทำให้ Copier สามารถเพิ่มโอกาสของตนในขณะที่ยังคงรักษาเงินทุนในระยะยาวได้
