Futures

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก

2024-04-12 12:000118

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 0

ภาพรวม

● คู่มือสำหรับมือใหม่ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อช่วยคุณในการทำการเทรด Futures ครั้งแรก โดยใช้ USDT-M Futures เป็นตัวอย่าง

● ก่อนเริ่มเส้นทางนี้ ต้องมั่นใจก่อนว่าคุณได้ทำความคุ้นเคยกับแนวคิดที่กล่าวถึงในบทความแล้ว รวมถึงเข้าใจในกระบวนการเทรด Futures พร้อมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นแล้ว

● Bitget ขอแนะนำอย่างยิ่งให้มือใหม่ในการเทรด Futures เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยในการเทรดครั้งแรก วิธีนี้ช่วยให้เข้าใจในคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ได้ดียิ่งขึ้น

ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Futures เป็นรูปแบบหนึ่งของอนุพันธ์ที่สามารถเพิ่มทั้งผลกำไรและขาดทุนของคุณได้ จึงมีความแตกต่างจากการเทรด Spot ทั่วไป เราเข้าใจดีว่าบางแง่มุมของการเทรด Futures อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้นโปรดศึกษาข้อมูลในแต่ละส่วนอย่างละเอียดก่อนที่จะลงมือเทรด Futures

การโอนสินทรัพย์ไปยังบัญชี Futures ของคุณ

ขั้นแรก มาเริ่มด้วยบัญชีประเภทต่างๆ กันก่อน เมื่อคุณทำการฝาก ครั้งแรก โดยปกติแล้วสินทรัพย์จะไปปรากฏอยู่ในบัญชี Spot ของคุณ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเริ่มเทรด Futures คุณจะต้องทำการโอนสินทรัพย์ก่อน Bitget มีบัญชีหลายประเภทให้บริการ ซึ่งรวมไปถึงบัญชี Funding, Spot และ Futures ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อฝากสินทรัพย์เข้าบัญชี Bitget สินทรัพย์นั้นจะเข้าไปยังบัญชี Spot ก่อน หากคุณต้องการเริ่มเทรด Futures ก็จะต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อโอนสินทรัพย์จากบัญชี Spot ไปยังบัญชี Futures ของคุณ

แอป:

ขั้นตอนที่ 1: แตะที่ “สินทรัพย์ / Assets” ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ จากนั้นเลือก “โอน / Transfer” เพื่อย้ายสินทรัพย์จากบัญชี Spot ไปยังบัญชี Futures ของคุณ โดยเมื่อทำการโอน จะต้องเลือกประเภท Futures ด้วย เนื่องจาก Bitget มีทั้ง USDT-M, USDC-M Futures และ Coin-M Perpetual/Delivery Futures สำหรับคู่มือนี้ เราจะเน้นไปที่ USDT-M Futures ของ Bitget

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 1

ขั้นตอนที่ 2: Futures แต่ละประเภทต้องใช้คริปโทเคอร์เรนซีตามที่กำหนดเป็น Margin สำหรับ Bitget นั้น USDT-M Futures ต้องใช้ USDT Stablecoin, USDC-M Futures ต้องใช้ USDC Stablecoin และ Coin-M Futures ต้องใช้คริปโทเคอร์เรนซี เช่น BTC และ ETH เลือกตัวเลือกการเพิ่มเงินทุนให้ตรงกับประเภท จากนั้นป้อนจำนวนที่ต้องการโอนไปยังบัญชี Futures ของคุณ แล้วแตะ “ยืนยัน / Confirm

ขั้นตอนที่ 3: กลับไปยังหน้าแรกของแอป แล้วแตะ “เทรด / Trade” ในแถบเมนูหลักด้านล่าง จากนั้นแตะ “เทรด / Trade” อีกครั้ง และเลือก Futures

หลังจากทำตามขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอนนี้แล้ว คุณก็จะเข้าสู่หน้าการเทรด Futures อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งวาง Order ในทันที แม้ว่าหน้าการเทรด Futures จะใช้งานง่าย แต่มือใหม่ควรใช้เวลาในการทำความเข้าใจตัวเลือก พารามิเตอร์ และแนวคิดของการเทรด Futures ต่างๆ เสียก่อน เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว คุณก็พร้อมสำหรับการเทรด Futures

เว็บไซต์:

ขั้นตอนบนเว็บไซต์ Bitget จะคล้ายคลึงกับขั้นตอนในแอป โดยต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในเรื่องตำแหน่งของปุ่มต่างๆ จากการออกแบบหน้าเพจ หากต้องการเทรด Futures บนเว็บไซต์ Bitget คุณจะต้องโอนสินทรัพย์จากบัญชีเงินทุนไปยังบัญชี Futures ของคุณด้วยเช่นกัน เพียงคลิกไอคอน [Wallet] ที่มุมขวาบน จากนั้นเลือก “โอน / Transfer” โดยในหน้า “โอน / Transfer” ให้เลือกประเภท Futures, คริปโทเคอร์เรนซี และป้อนจำนวนที่โอน กระบวนการนี้แสดงไว้ดังภาพด้านล่าง:

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 2

เริ่มต้นกับการเทรด Futures

เมื่อคุณมีสินทรัพย์ในบัญชี Futures เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นเทรดได้เลย ด้านล่างนี้คือคู่มือแบบละเอียดเกี่ยวกับการวาง Order แรกในการเทรด Futures ของคุณ:

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 3

แอป:

ขั้นตอนที่ 1: เลือกคู่เทรด Futures ที่ต้องการ เมื่อเข้าสู่หน้าการเทรด Futures แล้ว Bitget จะแสดง “BTCUSDT Perpetual” ที่มุมซ้ายบนเป็นค่าเริ่มต้น คุณสามารถแตะที่คู่นี้เพื่อเลือกคู่เทรดอื่นๆ ได้ เช่น ETHUSDT, SOLUSDT และอื่นๆ

ขั้นตอนที่ 2: เลือกโหมด Cross หรือ Isolated Margin นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการเทรด Futures คุณสามารถดูคำอธิบายเกี่ยวกับโหมด Cross และ Isolated Margin ได้เมื่อคลิกที่โหมด Margin

โปรดทราบว่าหากเลือกโหมด Cross Margin ระบบจะนำสินทรัพย์ที่ใช้ได้ในบัญชี Futures ของคุณมาใช้ในการเทรดทั้งหมด หากต้องการติดตามความเสี่ยงในรายการเทรดต่างๆ อย่างใกล้ชิด ควรเปลี่ยนไปใช้โหมด Isolated Margin เนื่องจากในโหมดนี้ การขาดทุนสูงสุดจะจำกัดอยู่ที่สินทรัพย์ที่ใช้ได้ในบัญชี Isolated Margin กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Cross Margin เป็นแนวทางแบบ “All-In” ในขณะที่ Isolated Margin เป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างปลอดภัยกว่า

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าเลเวอเรจ ที่ด้านขวาของ Cross/Isolated Margin คุณจะเห็นไอคอน 10X เมื่อคลิก จะสามารถเลือกระดับเลเวอเรจที่ต้องการได้ เช่น BTCUSDT Futures จะมีเลเวอเรจขั้นต่ำคือ 1X และสูงสุดคือ 125X หากคุณเพิ่งเริ่มเทรด Futures ขอแนะนำให้ใช้เลเวอเรจไม่เกิน 10X

ขั้นตอนที่ 4: เลือกประเภท Order เนื่องจากนี่เป็นการเทรดครั้งแรกของคุณและคุณไม่ได้มี Position ใดๆ เปิดไว้ จึงทำได้เพียงเปิด Position ใหม่เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภายใน Limit Order นั้นมีหลายตัวเลือกที่จะเป็นตัวกำหนดต้นทุนและจังหวะการซื้อของคุณ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Futures

Bitget มี 5 โหมดสำหรับ Order ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ ได้แก่ Limit Order, Limit Order ขั้นสูง, Market Order, Trigger Order และ Trailing Stop Loss ในที่นี้เราจะแนะนำข้อมูลประเภท Order ง่ายๆ ทั่วไป 3 ประเภทสำหรับมือใหม่

Limit Order: เมื่อคุณเลือก Limit Order ราคาของคู่นั้นจะแสดงด้านล่างโดยอัตโนมัติ คุณเพียงป้อนจำนวนคริปโทเคอร์เรนซีที่ต้องการจะซื้อหรือขาย ระบบจะวาง Limit Order ไว้ใน Order Book ณ ราคา Limit ที่ระบุซึ่งคุณเป็นผู้กำหนด โดยจะดำเนินการ Order ก็ต่อเมื่อราคาตลาดมาถึงหรือสูงกว่าราคา Bid/Ask ณ ขณะนั้นเท่านั้น Limit Order ช่วยให้ผู้ใช้ซื้อได้ในราคาต่ำกว่าหรือขายได้ในราคาสูงกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งจะต่างจาก Market Order ที่ดำเนินการทันที ณ ราคาตลาด ณ ขณะนั้น โดยจะมีการวาง Limit Order ไว้ใน Order Book และจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคามาถึงแล้วเท่านั้น

Market Order: นี่คือโหมด “ขี้เกียจ” ซึ่งระบบจะเลือกราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ให้เพื่อดำเนินการ Order หาก Order ดำเนินการไปบางส่วนหรือไม่ได้ดำเนินการ ระบบจะดำเนินการต่อไป ณ ราคาที่ดีที่สุดราคาถัดไป

Trigger Order: ผู้ใช้บางคนต้องการซื้อหรือขายคริปโทเคอร์เรนซีเฉพาะเมื่อมาถึงจุดราคาที่กำหนดเท่านั้น Trigger Order จึงตอบโจทย์นี้ด้วยการวาง Order ในปริมาณและราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะถูกทริกเกอร์เมื่อราคาตลาดมาถึงราคาทริกเกอร์เท่านั้น ระบบจะไม่ระงับสินทรัพย์เอาไว้ก่อนที่จะมีการทริกเกอร์ Order สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ Trigger Order นั้นค่อนข้างคล้ายกับ Limit Order แต่ Limit Order จะเกี่ยวข้องกับราคาที่ระบบกำหนด ในขณะที่ Trigger Order ต้องให้คุณเองป้อนข้อมูลเข้ามา

ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่า Take Profit/Stop Loss และวาง Order ซื้อ/ขาย Bitget ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ผู้ใช้ใหม่ตั้งค่า Stop Loss หรือ Take Profit เมื่อทำการเทรด Futures เป็นครั้งแรก สิ่งนี้จะช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้นและเข้าใจผลกระทบที่เลเวอเรจมีต่อสินทรัพย์ของบัญชีของคุณ Order ซื้อหรือขายหมายความว่าคุณเปิด Long หรือ Short ตามลำดับ เลือก “ซื้อ / Buy” หากคุณรู้สึก Bullish และคาดหวังว่าราคาคริปโทเคอร์เรนซีจะปรับตัวขึ้น มิฉะนั้นให้เลือก “ขาย / Sell”

เว็บไซต์:

ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เว็บไซต์จึงสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ชอบทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคและมีทักษะในการอ่านกราฟแท่งเทียน

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 4

ไม่ว่าคุณจะเลือกเทรด Futures บนเว็บไซต์หรือแอป เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดข้างต้นแล้วคลิก “ซื้อ / Buy” หรือ “ขาย / Sell” แล้ว ก็เท่ากับว่าคุณได้ทำการเทรด Futures แล้ว แม้ว่าขั้นตอนอาจดูตรงไปตรงมา แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่คุณต้องทราบก่อนทำการเทรด Futures

ทำความเข้าใจใน Order และ Position ของคุณ

Funding Rate

Funding Rate เรียกอีกอย่างว่าค่าธรรมเนียม Funding เมื่อใช้ USDT Perpetual Futu res เป็นพื้นฐานของบทความ เนื่องจาก Perpetual ไม่มีวันที่ส่งมอบ ผลกำไรและขาดทุนจึงคำนวณแตกต่างออกไปเมื่อเทียบกับสัญญา Futures มาตรฐาน Funding Rate ของ Bitget สะท้อนถึงผลกำไรและขาดทุนของนักเทรด โดยอัปเดตและคำนวณทุก 8 ชั่วโมงตามส่วนต่างราคาระหว่างตลาด Futures กับตลาด Spot แพลตฟอร์ม Bitget ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม Funding แต่จะเป็นการจ่ายสินทรัพย์เข้าไปยังบัญชีของผู้ชนะซึ่งนำมาจากบัญชีที่แพ้ โดยขึ้นอยู่กับ Position ที่ยังไม่ได้ชำระราคา

Margin

เลเวอเรจในการเทรด Futures นั้นอำนวยความสะดวกผ่าน Margin ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องชำระเต็มจำนวนสำหรับสินทรัพย์ แต่จะต้องลงเงินทุนจำนวนเล็กน้อยเป็นหลักประกันในอัตราที่กำหนดโดยอิงตามมูลค่า Futures เงินทุนนี้เรียกว่า Margin

ตัวอย่าง:

ผู้ใช้ A ถือ Long 2X Position ในคู่ EOS/USDT โดยมี Margin ปัจจุบันอยู่ที่ 0.15314844 USDT หาก A เพิ่มเลเวอเรจ ก็จะทำให้ Margin ลดลงอย่างสอดคล้องกัน ในทางกลับกัน หากผู้ใช้ A ลดเลเวอเรจ ก็จะทำให้ Margin เพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน

Margin ที่เปิด

Margin ที่เปิดคือจำนวน Margin ขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการเปิด Position ซึ่งจะแสดงเป็น “ต้นทุน Order / order cost” เมื่อวาง Order

Margin ที่เปิด = (มูลค่าPosition ÷ ตัวคูณเลเวอเรจ) + ค่าธรรมเนียมการเปิดโดยประมาณ ณ เวลาที่เปิด Position เมื่อ Order ได้รับการดำเนินการ ส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมการเปิดแล้วจะถูกส่งกลับไปยังสินทรัพย์ที่ใช้ได้โดยอัตโนมัติ

Position Margin

หลังจากสร้าง Position แล้ว คุณสามารถตรวจสอบ Margin สำหรับตำแหน่งเฉพาะนั้นๆ ได้ในส่วน “Position / Positions” ของหน้าการเทรด Futures

Margin ของ Position เริ่มต้น = มูลค่า Position ÷ เลเวอเรจ คุณยังสามารถปรับ Margin ของ Position ได้โดยใช้ปุ่ม “+/-” หรือโดยการปรับเลเวอเรจ

Margin คงเหลือ

Margin คงเหลือคือ Margin ที่สามารถนำมาใช้ในการเปิด Position ได้ Margin นี้จะมีการปล่อยบางส่วน ซึ่งจะเพิ่มอัตราการใช้สินทรัพย์เนื่องด้วยสถานะของ Hedge Position ที่ใช้ Margin มากกว่าใน และจะยึดตามสถานะจริงของธุรกรรม

Maintenance Margin

Maintenance Margin คือมูลค่าขั้นต่ำที่คุณต้องมีเพื่อรักษา Position ของคุณให้เปิดอยู่ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามขนาดปัจจุบันของ Position ของคุณ

ค่าธรรมเนียมธุรกรรม

สำหรับมือใหม่ ค่าธรรมเนียมถือเป็นข้อกังวลหลักเช่นเดียวกับในการเทรด Spot ค่าธรรมเนียมธุรกรรม Futures จะคำนวณตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจแตกต่างกันออกไปตามประเภทของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ไม่ว่านักเทรดจะเป็น Maker หรือ Taker ก็ล้วนมีผลต่อจำนวนเปอร์เซ็นต์ทั้งสิ้น สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมโดยเฉพาะ โปรดดูที่ ตารางค่าธรรมเนียม

คู่มือสำหรับมือใหม่ Bitget: วิธีทำการเทรด Futures ครั้งแรก image 5

โครงสร้างค่าธรรมเนียม Futures ของ Bitget นั้นเปิดเผยและโปร่งใส โดยคำนวณดังนี้:

ค่าธรรมเนียมธุรกรรม = (ขนาด Position × ราคาธุรกรรม) × อัตราค่าธรรมเนียมธุรกรรม = มูลค่า Order x อัตราค่าธรรมเนียมธุรกรรม

หมายเหตุ: มูลค่า Order = จำนวน Futures Order × ราคาธุรกรรม

เช่น A ซื้อ BTCUSDT Futures โดยใช้ Market Order และ B ขาย BTCUSDT Futures โดยใช้ Limit Order หากราคาธุรกรรมคือ 60,000 USDT

ค่าธรรมเนียม Taker ของ A = 1 × 60,000 × 0.06% = 36 USDT

ค่าธรรมเนียม Maker ของ B = 1 × 60,000 × 0.02% = 12 USDT

กุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรด Futures

เมื่อเทรดผลิตภัณฑ์หรืออนุพันธ์ทางการเงิน ไม่มีกลยุทธ์ใดรับประกันได้ถึงผลกำไรที่สม่ำเสมอโดยไม่เกิดการขาดทุน แม้แต่นักเทรดรุ่นเก๋าอย่าง Warren Buffett ก็เคยเผชิญช่วงเวลายากลำบากตลอดเส้นทางการลงทุนอันยาวนาน อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน นั่นคือคุณต้องจัดการอารมณ์ รักษากรอบความคิดที่ถูกต้อง และจัดสรร Position ของคุณอย่างสมเหตุสมผล สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น Futures นั้น ความผันผวนของราคาอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสินทรัพย์ของคุณได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีสติตลอดกระบวนการ อย่าลืมว่าการเทรด Futures ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมาราธอน