Bitget App
เทรดอย่างชาญฉลาดกว่าที่เคย
ซื้อคริปโตตลาดเทรดFuturesCopyบอทเทรดEarn
บล็อกเชน
Bridge บล็อกเชนคืออะไร

Bridge บล็อกเชนคืออะไร

มือใหม่
2024-01-13 | 5m

Bridge บล็อกเชน คือโปรโตคอลที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการโอนคริปโทเคอร์เรนซีจากบล็อกเชนหนึ่งไปยังอีกบล็อกเชนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น หากคุณมี Stablecoin เช่น USDC บนบล็อกเชน Solana และคุณต้องการโอนไปยังบล็อกเชน Fantom คุณจะต้องใช้ Bridge เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว

ในบทความนี้ เราตั้งใจที่จะให้ข้อมูลอย่างละเอียดครบถ้วนเกี่ยวกับ Bridge และบล็อกเชนที่มีการใช้งานบ่อยที่สุด ไปดูกันเลย

Bridge บล็อกเชนคืออะไร

Bridge บล็อกเชนช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนโทเค็นหรือข้อมูลระหว่าง 2 บล็อกเชน และช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์บน Chain อื่นได้อีกด้วย เหรียญทั้งหมดจะมีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม โทเค็นนั้นเป็นเพียงสินทรัพย์เวอร์ชันเสมือนที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนของเหรียญอื่น ทั้งนี้ เครือข่ายคริปโทเคอร์เรนซี นั้นมีอยู่ด้วยกันมากมาย รวมถึงเครือข่าย Ethereum, เครือข่าย Solana, เครือข่าย Binance Smart Chain, เครือข่าย DAI, เครือข่าย Cardano, เครือข่าย Polygon และอื่นๆ ซึ่งแต่ละเครือข่ายเหล่านี้จะมีเหรียญดั้งเดิมประจำเครือข่ายและระบบนิเวศแยกเป็นของตนเอง กล่าวคือ เครือข่ายของ Ethereum จะสร้างขึ้นโดยใช้เหรียญ Ethereum เป็นหลัก ส่วนเครือข่ายอื่นๆ ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การจะมีโทเค็น Ethereum บน Binance Smart Chain, Ethereum บนเครือข่าย Polygon และอื่นๆ ในลักษณะเดียวนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ ในกรณีเหล่านี้ เหรียญดังกล่าวจะเป็นดั่งโทเค็นบนเครือข่ายของคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ โดยมีการปรับใช้กลไกเฉพาะเพื่อการันตีว่าราคาในการเทรดยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน

เพราะเหตุใดจึงต้องใช้ Bridge บล็อกเชน

Bridge บล็อกเชนจะมีความจำเป็นอย่างยิ่งภายใต้เหตุผลหลัก 3 ประการ ดังนี้

- เหตุผลหนึ่ง คือ โทเค็น ERC20 จำนวนมากที่คุณซื้อในปัจจุบันนั้นมาจากเครือข่าย Ethereum ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณซื้อ Polygon หรือ Matic บน Bitget คุณจะได้รับ Polygon หรือ Matic ในเวอร์ชัน Ethereum แทนที่จะเป็นโทเค็น Polygon “ที่แท้จริง” บนเครือข่าย Polygon กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีหลักๆ จะมอบโทเค็นบนเครือข่าย Ethereum ให้กับคุณเป็นหลัก แทนที่จะขายโทเค็นดั้งเดิมในสกุลต่างๆ ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับ “เหรียญที่แท้จริง” ประจำเครือข่ายนั้นๆ นั่นเอง

- เหตุผลสำคัญประการที่สองในการโอน Ethereum ดั้งเดิมของคุณจากเครือข่าย Ethereum ไปยังเครือข่าย Polygon คือประเด็นเรื่องต้นทุนในการทำธุรกรรมที่สูงขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่าย Ethereum กล่าวคือ Polygon นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นวิธีการขยายการรองรับของ Ethereum อย่างไรก็ตาม เครือข่าย Polygon ในปัจจุบันยังไม่มีความปลอดภัยในระดับเดียวกันกับ Ethereum ซึ่งเป็นเพราะโดยธรรมชาติแล้ว Polygon จะมีลักษณะของความรวมศูนย์มากกว่าเล็กน้อยนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการนำ Bridge เข้ามาใช้งานเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงเครือข่ายใหม่ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และ Bridge ยังถือเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วยเพราะบางเครือข่ายมีต้นทุนที่ต่ำกว่า การประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วกว่า หรืออาจมีความปลอดภัยที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่ายอื่นๆ

- สุดท้ายนี้ เราต้องการ Bridge เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม ในปัจจุบัน ความรับผิดชอบในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม การแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย และการบรรลุความสามารถในการขยายการรองรับนั้นขึ้นอยู่กับบล็อกเชนแต่ละบล็อกเชน ตัวอย่างเช่น คุณสมบัติที่ Bitcoin นำเสนอนั้นไม่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนา Ethereum ได้อย่างง่ายดาย จุดนี้เองคือจุดที่การใช้งาน Bridge เข้ามามีบทบาท ในทางกลับกัน แนวทางการใช้งาน Bridge นี้ก็จะเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีให้เป็นเหมือนดั่งกีฬาประเภททีมมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับความท้าทายหรือปัญหาต่างๆ ที่ต้องการแก้ไขนั่นเอง

Bridge บล็อกเชนทำงานอย่างไร

ดูเหมือนว่าการทำงานของ Bridge คริปโทเคอร์เรนซีจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทางหลัก เราได้ทำการศึกษาค้นคว้ามาเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากคุณพบแนวทางที่ 3 ล่ะก็โปรดอย่าลังเลที่จะส่งอีเมลมาหาเรา แล้วเราจะทำการตรวจสอบให้แน่ใจว่าแนวทางดังกล่าวนั้นได้รับการค้นพบและเผยแพร่อย่างเป็นทางการ

แนวทางแรกมีความรวมศูนย์อยู่ค่อนข้างมากและทำหน้าที่เป็นส่วนขยายให้กับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนอื่นๆ ในแนวทางนี้จะมี Pool ขนาดใหญ่ของ Ethereum/Tether และ Polygon/Tether ซึ่งทั้งคู่เป็นตัวแทนของ Tether ในแต่ละเครือข่ายตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่าในบางกรณี แทนที่จะเป็น Pool ตามปกติทั่วไป แต่ก็อาจเป็นบริษัทหรือบุคคลได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณฝาก Ethereum/Tether เรียบร้อยแล้ว โทเค็นนั้นก็จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Pool ของ Ethereum Tether จากนั้น หน่วยงานส่วนกลางก็จะมอบ Polygon/Tether ให้กับคุณในจำนวนที่เท่ากัน ซึ่งนำมาจาก Pool ดังกล่าวนั้นเอง โดยปกติแล้วจะมีค่าธรรมเนียมที่คุณต้องชำระ และค่าธรรมเนียมนี้จะถูกรวบรวมและมอบให้กับหน่วยงานส่วนกลางหรือผู้ให้บริการสภาพคล่อง ต่อไป อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้วค่าธรรมเนียมดังกล่าวนั้นจะมีจำนวนเพียงเล็กน้อย และผู้ใช้มักจะยินดีชำระค่าธรรมเนียมนั้น เพราะไม่มีวิธีอื่นในการเข้าถึงเครือข่ายให้เลือกใช้งานอีกแล้ว หนึ่งในข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ คือ การต้องไว้วางใจว่าหน่วยงานส่วนกลางจะไม่ยักยอกสินทรัพย์ในระหว่างกระบวนการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระบวนการนี้ใช้เวลาดำเนินการหลายวัน นอกจากนั้น แนวทางนี้จะมีประสิทธิภาพได้ก็ต่อเมื่อมีผู้คนเทรดหรือทำการซื้อขายกันไปมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น เคยพบกรณีที่ผู้คนจำนวนมากประสบปัญหาเมื่อพยายามโอน Stablecoin บางส่วนจาก Binance Smart Chain ไปยังเครือข่าย Polygon เนื่องจากเครือข่าย Polygon ไม่มี Stablecoin ที่จะมอบให้และ Pool ก็ไม่มีสินทรัพย์ใดอยู่เลย ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ใช้จะต้องรอประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อให้บุคคลอื่นทำธุรกรรมแบบย้อนกลับ ซึ่งจะเป็นการเติมสินทรัพย์ใน Pool โดยใช้สินทรัพย์ของพวกเขาเอง แล้วจากนั้นจึงจะดำเนินการโอนสินทรัพย์ได้ในที่สุด

แนวทางการทำงานที่ 2 ของ Bridge คริปโทเคอร์เรนซีหรือ Bridge บล็อกเชน คือการดำเนินงานผ่าน Smart Contract วิธีการนี้นั้นค่อนข้างซับซ้อนและควรมีการเขียนบทความแยกไว้ให้โดยเฉพาะเลยทีเดียว แต่ในตอนนี้ เราจะนำเสนอข้อมูลภาพรวมโดยย่อให้กับคุณไปก่อน กล่าวคือ เมื่อคุณใช้ Bridge คริปโทเคอร์เรนซี สินทรัพย์คริปโตที่คุณส่งจะถูกล็อกไว้ใน Smart Contract จากนั้น เมื่อสินทรัพย์ของคุณถูกล็อก คุณจะได้รับ “ตัวแทน” ของโทเค็นนั้นบนเครือข่ายใหม่ที่คุณต้องการโอนไป และ Smart Contract จะ Mint โทเค็นในจำนวนที่มากกว่าที่คุณดำเนินการ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจาก Smart Contract นั้นมีข้อมูลว่าคุณได้ Burn หรือล็อกโทเค็นที่เทียบเท่ากับจำนวนดังกล่าวเอาไว้ในเครือข่ายอื่น อย่างไรก็ดี ควรสังเกตไว้เสมอว่าโดยทั่วไปแล้ววิธีที่ใช้งาน Smart Contract นั้นจะใช้กับเหรียญที่ไม่มีความสามารถของ Smart Contract ประจำโทเค็น ตัวอย่างเช่น Bitcoin, Bitcoin Cash และ Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญเด่นที่นักลงทุนชื่นชอบ แต่เหรียญเหล่านี้ไม่สามารถดำเนินการบางอย่างได้ เช่น การให้กู้ยืมและการกู้ยืม เป็นต้น คุณสามารถรับเหรียญตัวแทนของเหรียญเหล่านี้ได้บนเครือข่ายที่รองรับการโต้ตอบ Smart Contract เช่น Ethereum นอกจากนี้ RenBTC คือโทเค็น Ethereum ที่ทำให้คุณสามารถถือโทเค็นซึ่งตรึงมูลค่าไว้กับราคา Bitcoin ได้ โดยพื้นฐานแล้ว โทเค็นนี้จะทำงานเหมือนกับ Bitcoin แต่เมื่ออยู่บนเครือข่าย Ethereum แล้วนั้น โทเค็นนี้จะมอบสิทธิ์ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น การให้กู้ยืมและการโต้ตอบกับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์อื่นๆ ให้กับคุณ

ตัวอย่างของ Bridge บล็อกเชน

วิธีการเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนที่รองรับ EVM (EVM-Compatible Blockchain)

บล็อกเชนที่รองรับหรือเข้ากันได้กับ EVM คือ บล็อกเชนทั้งหมดที่ใช้งาน Ethereum Virtual Machine ตัวอย่างของบล็อกเชนที่รองรับ EVM ได้แก่ Binance Smart Chain, Fantom, Harmony, โซลูชัน Ethereum Layer-2 เช่น Arbitrum และ Optimism และ Polygon

การเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนที่หลากหลายเหล่านี้สามารถทำได้ผ่านตัวเลือกมากมายที่ Bridge ต่างๆ มีไว้ให้บริการ โดยระบบนิเวศในปัจจุบันของ Bridge ที่รองรับ EVM นั้นค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อจากบล็อกเชนหนึ่งไปยังอีกบล็อกเชนหนึ่ง

ตัวอย่างของ Bridge ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่ Cbridge, Multichain, Connext และ Synapse รายการข้างต้นนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงตัวอย่างทั้งหมด เพราะยังมี Bridge อื่นๆ พร้อมให้บริการอีกมากมาย โปรดใช้ความระมัดระวังก่อนใช้งาน เนื่องจากค่าธรรมเนียมและสภาพคล่องอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ Bridge ที่คุณเลือก เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณทำการเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจว่าจะใช้ตัวเลือกใด ตัวอย่างเช่น “Multichain” Bridge จะมีค่าธรรมเนียมคงที่ เป็นต้น

การใช้ Bridge นั้นไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงเชื่อมต่อ Wallet ของคุณ เลือกบล็อกเชนตั้งต้น จากนั้นให้เลือกบล็อกเชนปลายทาง เมื่อขั้นตอนเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว คุณจะต้องยืนยันธุรกรรม จากนั้นระบบจะดำเนินการ Swap ให้กับคุณ ทั้งนี้ การโอนดังกล่าวจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่ก็ใช้เวลาไม่นานเช่นกัน โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 10 นาทีในการรับสินทรัพย์จากบล็อกเชนที่รับ ส่วนเวลาในการประมวลผลสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมอาจได้รับอิทธิพลจากความหนาแน่นของเครือข่ายด้วยเช่นกัน

Li Finance: Bridge Aggregator เจ้าหนึ่งในอุตสาหกรรม

LI.FI ได้พัฒนา Layer ตัวกลางที่อยู่ระหว่างโครงสร้างพื้นฐาน DeFi และ DApp Layer ด้วยการรวบรวมรากฐานสำคัญของ DeFi นักพัฒนาจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของแพลตฟอร์มได้ กล่าวคือการเป็นสุดยอด Gateway สู่ตัวเลือกการ Swap และการเชื่อมโยงทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง เช่นเดียวกับเว็บไซต์เปรียบเทียบเที่ยวบินเมื่อวางแผนวันหยุด LI.FI จะกลายเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบ Bridge ที่คุณโปรดปรานได้อย่างแน่นอน

Bridge บน Solana

มี Bridge หลักอยู่ 2 รายการสำหรับการเชื่อมโยงจาก Ethereum, Polygon และบล็อกเชนอื่นๆ คือ Bridge ที่ชื่อ Allbridge และ Wormhole การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมระหว่าง Bridge ทั้งสองนั้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญเช่นเคย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ Solana คุณควรคำนึงถึงโทเค็นที่คุณได้รับเมื่อใช้ Bridge เหล่านี้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เราได้ใช้งาน Allbridge เพื่อเชื่อมโยง USDC จากบล็อกเชน Polygon ไปยังบล็อกเชน Solana ลักษณะที่โดดเด่นของการเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชน เช่น EVM Polygon และบล็อกเชน Solana อยู่ที่ว่า ถึงแม้เราจะโอน USDC จาก Polygon บนบล็อกเชน Solana แต่เรากลับไม่ได้รับ USDC จริง แต่เป็น USDC ที่ต้องผ่านการ Wrap ดังนั้นเราจึงได้รับ apUSDC แทน โดยคำเติมข้างหน้าที่เป็น “ap” นั้นย่อมาจาก “Allbridge Polygon” เนื่องจากความแตกต่างในภาษาโปรแกรมมิ่งระหว่าง Polygon และ Solana โทเค็นจึงถูก Wrap ในระหว่างกระบวนการโอน ต่อจากนั้น โทเค็นดังกล่าวจะสามารถนำไป Swap เป็น “USDC จริงของบล็อกเชน Solana” ได้ ในกรณีตัวอย่างของเรา เราได้ใช้ Jupiter Aggregator ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือปกติแล้วจะมีค่าธรรมเนียมการ Swap และ Slippage เล็กน้อย ซึ่งคิดแยกออกมาจากค่าธรรมเนียมของ Bridge

ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ Bridge

หนึ่งในความท้าทายของ Bridge คือการที่ Bridge ไม่สามารถไว้วางใจได้แบบ 100% ซึ่งแตกต่างจากแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่อาศัย Code และภาษาโปรแกรมมิ่งเป็นรากฐาน กล่าวคือ โดยทั่วไปแล้ว Bridge บล็อกเชนจะเกี่ยวข้องกับหน่วยงาน บุคคล หรือบริษัทที่ให้การสนับสนุน Bridge นั้นๆ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ Bridge ส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะเป็นแบบรวมศูนย์นั่นเอง และนอกเหนือจากข้อกังวลดังกล่าว ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ Bridge เหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินการได้ค่อนข้างช้า เวลาที่ใช้ในการโอนอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละ Bridge โดยบาง Bridge อาจดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาที ในขณะที่บาง Bridge อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง และในบางกรณีอาจใช้เวลาหลายวันได้เลยทีเดียว และเพื่อให้คุณเห็นภาพว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เวลานานเท่าใด เราสามารถกล่าวได้ว่าธุรกรรมส่วนใหญ่บนเครือข่ายหลักๆ จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที

บทสรุป

Bridge เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้าง “โลกคริปโต (Cryptosphere)” ที่เปิดกว้างและมีการทำงานร่วมกันมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม Bridge ยังคงมีข้อบกพร่องหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้ได้รับการยอมรับและนำไปใช้งานในวงกว้างมากขึ้น สิ่งนี้เป็นเทรนด์ที่เด่นชัดและแพร่หลายในกลุ่มโปรเจกต์บล็อกเชนที่มีเป้าหมายในการทำให้เกิดการทำงานร่วมกันได้ในระดับสูงสุด และดูเหมือนว่าเทรนด์นี้จะไม่สิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน

ติดตาม Bitget Academy เพื่อรับทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบล็อกเชน เพิ่มเติม!:

Twitter | Telegram | LinkedIn | Facebook | Instagram

แชร์
link_icon
หากยังไม่ได้เป็น Bitgetterของขวัญต้อนรับมูลค่า 6,200 USDT สำหรับ Bitgetter หน้าใหม่!
สมัครเลย
ทุกเหรียญโปรดของคุณ เรามีให้ครบครัน!
ซื้อ ถือ และขายคริปโทเคอร์เรนซียอดนิยม เช่น BTC, ETH, SOL, DOGE, SHIB, PEPE และอีกเพียบ ลงทะเบียนและเทรดเพื่อรับเซ็ตของขวัญสำหรับผู้ใช้ใหม่มูลค่า 6,200 USDT!
เทรดเลย